จากตอนที่แล้วเราคุยกันถึง Day19 - Knowledge Portfolio กันไปแล้ว ซึ่งถ้าจะ recap กันเร็ว ๆ ก็คือการบริหารความรู้ของตัวเองให้เหมือนกับการบริหารพอร์ตการลงทุน ซึ่งถ้าเราทำได้ดีก็จะได้ return กลับมาทั้งในส่วนของการพัฒนาความรู้ เพิ่ม value ให้ตัวเอง รวมไปถึงการเพิ่มรายได้ที่จะเข้ามาด้วยเช่นกัน
ในคราวนี้เรามาพูดกันในแง่ของการบริหารพอร์ตของทีมกันบ้าง
อะไรบ้างล่ะ ? ที่ควรจะอยู่ใน Team knowledge portfolio
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจคอนเซปของ knowledge portfolio กันก่อน ถ้าเอาแบบสั้น ๆ คือ . . “ความรู้ที่เราสรุปในรูปแบบที่เราจะเล่ากับตัวเองในอนาคต”
แล้ว . . ถ้าเป็นในรูปแบบของ องค์กร หรือ ทีม ล่ะ ? อะไรบ้างที่ควรจัดมาอยู่ในพอร์ต ? งั้นอาจจะต้องถามคำถามกันก่อนว่า . . แล้วอะไรล่ะที่ . . เล่าไปแล้วทีมจะอยากฟัง ?
ไปต่อกันอีกนิด
ลองมาคิดกันหน่อยว่าในรูปแบบของการทำงานเป็นทีม อะไรคือ challenge ที่จะเข้ามากระทบได้บ้าง ? หนึ่งใน quest หลักของทีมทุกทีมไม่น่าจะพ้น “Feature Development” แล้วมีอะไรบ้างล่ะที่เราควรทำให้พอร์ตโต และเป็นประโยชน์สูงสุดกับทีม
1. Old Systems Maintenance
ถึงแม้ว่าการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ จะน่าสนุกและน่าตื่นเต้นแค่ไหนก็ตาม แต่การดูแล/ปรับปรุง ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะฉะนั้นข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบเก่า ไม่ว่าจะเป็น Server access, Project path, Project structure, etc . . เป็นสิ่งที่ควรจะต้องจัดเก็บและส่งต่อให้ทุกคนในทีมได้ และข้อสำคัญของเรื่องนี้คือ ควรให้ Format เป็นแบบที่ทุกคนเข้าใจได้ ให้ทุกคนสามารถอ่าน Document และทำตามได้ โดยไม่จำเป็นว่าคนที่ดูแลเรื่องนี้ จะยังอยู่ในทีมหรือไม่ก็ตาม
2. New tech experiments
อย่าเลือกใช้ framework, libraries ใหม่ ๆ เพียงเพราะแค่ “ใคร ๆ ก็ใช้กัน” หรือเพียงเพราะแค่ไปนั่งใน Meetup แล้วมีคนบอกว่ามันเจ๋ง . . ทดลองอย่างจริงจัง จัดสรรทีมมาเพื่อศึกษาและทำ Prototypes แล้วค่อยตัดสินว่ามันเหมาะกับปัญหาที่เรากำลังเจอ เหมาะกับเรื่องที่กำลังแก้ในตอนนั้นแล้วยัง นี่เป็นอีกเรื่องนึงที่ควรให้ความสำคัญกับพอร์ตของทีม เพราะไม่ใช่แค่เป็นการที่เราไป experiment สิ่งที่อาจจะใช้ไม่ได้ แล้วก็ทิ้งไป แต่การลองของใหม่ ๆ มักได้อะไรกลับมามากกว่านั้น อย่างน้อยก็ได้แนวคิดของ framework ใหม่ ได้รู้จักเทคนิคในการเขียนในรูปแบบใหม่ ซึ่ง. . สิ่งเหล่านี้อาจจะเป็น Return ที่ดีกว่าการที่เราได้ใช้ Tech stack ใหม่ซะอีก
3. Learning & Skill improvements
ข้อนี้จริง ๆ แล้วอาจจะเป็นการทับซ้อนกันอยู่ในระดับบุคคล การพัฒนาสกิลตัวเอง เป็นเรื่องที่เราต้องทำอยู่แล้วใน knowledge portfolio ของตัวเอง แต่ในข้อนี้ที่เป็นระดับทีม การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ หรือการ share knowledge ก็สำคัญไม่แพ้ อาจจะเป็นการส่งทีมไป Take course เพื่อได้สกิลที่มาส่งเสริมให้งานของทีมดีมากขึ้นไป หรือไม่ว่าจะเป็นการ share knowledge กัน ระหว่างเพื่อนร่วมทีมกันเอง ก็ได้ประโยชน์ไม่แพ้กัน เพราะในแง่ของการสอนกันเองในทีม ทั้งผู้เรียนผู้สอนก็ได้ประโยชน์ไม่แพ้กัน
In learning you will teach, and in teaching you will learn
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Team knowledge portfolio ก็อาจจะอยู่เหนือการควบคุมให้อยู่ในรูปแบบที่ควรจะเป็นบ้างแหละในบางครั้ง เพราะก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของทีมด้วย ว่าอยู่ในสถานะที่ พร้อม ที่จะทำให้พอร์ตโตขึ้นมากแค่ไหน
“The roots of education are bitter, but the fruit is sweet.”
ก็ขอฝากไว้เท่านี้แล้วกันนะครับ กับบทความนี้ แล้วพบกันใหม่ฮะ ฟิ้ววววววว~~
>_JV
