Developer Logs

Knowledge Portfolio

READ

... Knowledge always pay the best interest

Days: 19 | Publish : 18/05/2025

Knowledge Portfolio
              

“An investment in knowledge always pay the best interest”

พอดีได้มาอ่านหนังสือ Pragmatic Programmer มีอยู่หนึ่งบทที่รู้สึกประทับใจ และคิดว่าสามารถยึดเป็นพื้นฐานกับการพัฒนาตัวเองได้โดยเป็นเรื่องที่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปมากสักเท่าไร ถึงแม้ในตอนนี้เราจะอยู่ในพายุของความเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงก็เถอะ ก็เลยอยากจะสรุปเอาไว้สักหน่อย


ความรู้ + ประสบการณ์ = สินทรัพย์

แต่ ๆ ๆ … ต้องขอแสดงความเสียใจไว้ล่วงหน้าหน่อย เพราะสินทรัพย์ในฐานะของ Software Engineer มันดันมีวันหมดอายุด้วยนี่ล่ะสิ (ยิ่งในปี 2025 นี่ยิ่งหมดอายุเร็วขึ้นไปอีก 5555)

ทีนี้เราจะจัดการกับ พอร์ตการเรียนรู้ ของเราได้ยังไงบ้างล่ะ ? ซึ่งในที่นี้ในหนังสือก็เปรียบเทียบพอร์ตการเรียนรู้ เป็นเสมือนพอร์ตการลงทุน

1. ลงทุนสม่ำเสมอ

ข้อนี้ตรงไปตรงมาสุด ๆ คือแบ่งเวลาเรียนรู้สิ่งใหม่มาเข้าพอร์ต จัดตารางให้การเรียนรู้ อาจจะไม่ต้องมากมาย แต่ให้พยายามเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็ดูจะไม่ยากอะไร… เพราะความยากของข้อนี้คือ ความสม่ำเสมอ

2. ความหลากหลายในพอร์ต = ความสำเร็จในระยะยาว

ยิ่งความหลากหลายมากขึ้น คุณค่าก็เพิ่มขึ้นตาม โดยพื้นฐานแล้ว ในฐานะของ Software Engineer สิ่งที่เราควรจะต้องรู้ ก็จะเป็นความรู้ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อเทคโนโลยีนี่แหละ แต่… อย่าหยุดอยู่แค่นั้น ความรู้ที่เป็น non-tech ก็สำคัญไม่แพ้กัน Soft skill ทั้งหลาย Social skill, Human skill ก็ช่วยยกระดับคุณค่าของเราได้ไม่แพ้กัน

3. พยายามหาจังหวะ Buy low, Sell high เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนสูงที่สุด

กระโดดเข้าไปเรียนรู้ในสิ่งใหม่ ๆ ตั้งแต่ตอนที่มันยังไม่ได้น่าสนใจอะไร ซึ่งในข้อนี้อาจจะต้องใช้ประสบการณ์, ข้อมูลรอบข้าง การมองเทรนด์ หรือบางทีอาจจะเป็นในระดับของการเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเองเลยด้วยซ้ำ เพราะการที่จะเป็น early adopter ก็ไม่ได้แปลว่าจะได้รับผลตอบแทนได้สมน้ำสมเนื้อเสมอไป

4. รีวิวพอร์ต และปรับพอร์ตสม่ำเสมอ

ในอุตสาหกรรมที่โคตรจะเดือดแบบสุด ๆ และมีตัวเร่งจากหลากหลายทาง ยิ่งในตอนนี้ยังมีตัวเร่งอย่าง AI เข้ามาเพิ่มเติมเข้าไปอีก ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี่เรียกได้ว่า เกิดขึ้นกันแทบหลักวันหรือหนัก ๆ หน่อยอาจจะอยู่ในระดับหลักชั่วโมงไปแล้วก็ได้ สิ่งที่เราได้เรียนรู้มาก่อนหน้านี้ อาจจะเป็นสักเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว อาจจะ outdated ไปซะแล้วก็ได้ เพราะฉะนั้นการรีวิว + ปรับพอร์ตการเรียนรู้ของตัวเอง นับเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กับข้ออื่น ๆ


แล้วจะเติมพอร์ตด้วยอะไรได้บ้างล่ะ ?

ก็ได้มีข้อแนะนำจากหนังสือเพิ่มเติมมาด้วย ว่าสิ่งที่เราควรจะต้องทำเพื่อให้พอร์ตของเราแข็งแรงมากขึ้น มีอะไรที่ควรทำบ้าง ?

เรียนรู้ภาษาใหม่อย่างน้อยปีละ 1 ภาษา

มากกว่าการได้รู้ภาษาใหม่ มันคือการได้ขยายความรู้ความเข้าใจภาษาที่แตกต่างกัน ซึ่งมันส่งผลให้เราเขียนภาษาที่เราเขียนอยู่ในปัจจุบันได้ดีขึ้นไปด้วยโดยปริยาย เพราะเราจะได้เรียนรู้ทั้งวิธีการเขียน หรือเทคนิคเฉพาะของภาษานั้น ๆ ที่เราได้เรียนรู้เพิ่ม ซึ่งก็อาจจะมาปรับใช้กับภาษาที่เราใช้เป็นหลักอยู่ก็เป็นได้

อ่านหนังสือ Technical

หนังสือที่ว่านี่คือ หนังสือที่เป็น Long form นะครับ เป็นการเรียนรู้ในระดับที่ลึกลงไป และเป็นการเรียนรู้ที่เราจะต้องทำความเข้าใจ รวมถึงตกตะกอนด้วยตัวเอง เพื่อความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

อย่าลืมหนังสือ Non-tech

ก็นอกจาก Technical แล้ว ก็อย่าลืมหนังสือ Non-tech ด้วย Soft skill ก็เติมความรู้กันอย่าให้ขาดด้วยล่ะ

Take class

หาคอร์สที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็น offline หรือ online เพื่อเป็น shortcut ในการเรียนรู้จากคนที่ผ่านประสบการณ์มาอยู่แล้ว

Meetups

เข้าร่วม Meetups แต่ที่สำคัญคือ อย่าแค่ไปเข้าร่วมนะครับ หาทางเป็นส่วนหนึ่งในงานให้ได้ หรืออย่างน้อยก็คุยกับคนที่เจอกันในงาน เพื่อสร้าง connection เอาไว้

ลอง environment การทำงานใหม่ ๆ

ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยน IDE เปลี่ยน OS ต่าง ๆ นา ๆ

Stay current

อ่านข่าวเทคโนโลยี เพื่อที่จะได้อัพเดทข่าวใหม่ ๆ ในวงการ


ก็เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งบทที่น่าสนใจในหนังสือ Pragmatic Programmer สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจ ก็สามารถหามาอ่านกันได้เลยนะครับบบบ

>_JV